วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

พลิกโฉม“สนามหลวง” มรดกแห่งแผ่นดิน


     นับตั้งแต่เกิดจนจำความได้ คงไม่มีคนไทยคนไหนไม่รู้จักท้องสนามหลวงที่ซึ่งคนไทยทุกคนสามารถมาทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานราชพิธีและประเพณีต่างๆของไทย เมื่อวันเวลาผ่านไปโบราณสถานแห่งนี้ก็ชำรุดเสื่อมโทรมตามกาลเวลา ทางกรุงเทพมหานครจึงได้
เครดิตภาพจาก: http://www.oknation.net/blog/sigree/2007/08/18/entry
ริเริ่มปรับปรุงภูมิทัศน์ของท้องสนามหลวงให้คืนสู่ความงามอีกครั้ง การที่ทางกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการเช่นนี้ สามารถสร้างประโยชน์แก่ประชาชนชาวไทยได้เป็นอย่างมาก แต่ก็มีประชาชนบางส่วนก็เกิดผลกระทบจากการปรับปรุงภูมิทัศน์ของสนามหลวงในครั้งนี้อีกด้วย
     ท้องสนามหลวง อยู่เคียงคู่กรุงเทพมหานครมาตั้งแต่แรกสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ทั้งในช่วงกว่า ๒ ศตวรรษที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาในการปฏิบัติภารกิจในการรับใช้พระมหากษัตริย์ ประเทศชาติ และประชาชนชาวไทย  ตลอดเวลาอันยางนาน ไม่เพียงรูปลักษณ์ที่ปรับเปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็น รูปสี่เหลี่ยมคางหมู สู่รูป ผีเสื้อ ตามการขยายพื้นที่ของพระนคร และเป็น รูปวงรี อันเป็นรูปลักษณ์สากล ตั้งแต่เมื่อครั้งพื้นแผ่นนี้เป็นเพียงท้องไร่ท้องนา จนยกระดับเป็น ทุ่งพระเมรุ สถานที่ส่งพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศ์กลับสู่สวรรค์คาลัย
  เครดิตภาพจาก: http://mo122537.blogspot.com
     ลุสู่รัตนโกสินทร์สมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดเตรียมพื้นที่แห่งนี้ไว้สำหรับประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลงพระบรมศพ บูรพกษัตริยาธิราชตามโบราณราชประเพณีที่ปฏิบัติมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา โดยพระราชพิธีอันเป็นปฐมที่ได้จัดขึ้นคือ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมอัฐิสมเด็จพระชนกาธิบดี
จนถึง นาหลวงสถานที่ประกอบราชพิธีอันเกี่ยวเนื่องกับการกสิกรรม สู่การเป็นมณฑลพิธี จัดงานพระราชพิธี รัฐพิธี และประเพณีต่างๆ สู่การเป็นยุค ท้องพระโรงหลวงกลางแจ้งตามพระราชวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ใช้สนามหลวงเป็นสถานที่ประกอบราชพิธี และประเพณีสำคัญของบ้านเมืองเช่น พระราชพิธีพีชมงคล และพระราชพิธีพิรุณศาสตร์ซึ่งเป็นพิธีที่มีคุณค่าที่สร้างขวัญกำลังใจให้แก่ราษฎร
     เครดิตภาพจาก: http://www.thaimuslim.com
     จนมาถึงปัจจุบันประชาชนได้มีการทำกิจกรรมต่างๆในบริเวณสนามหลวง เช่นการเล่นว่าว การพักผ่อนหย่อนใจ ถ่ายรูปและอื่นๆอีกมากมาย แต่ปัญหาสำคัญที่ควรจะปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ คือนกพิราบ ซึ่งบินมาอยู่ในสนามหลวงกันอย่างหนาแน่น ไม่ใช่แต่ความวุ่นวายที่นกได้สร้างให้แก่สนามหลวง นกยังมีเชื้อโรคที่อาจแพร่มาสู่
คนได้
    ทั้งยังมีการขายอาหารภายในสนามหลวง ซึ่งสร้างความไม่เป็นระเบียบแก่บริเวณโดยรอบ รวมถึงปัญหาการขายบริการของหญิงสาวในยามค่ำคืน ซึ่งเป็นปัญหาสังคมมาเป็นเวลานานที่ยากแก่การแก้ไข     ทางกรุงเทพมหานครจึงได้มีการริเริ่มโครงการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของท้องสนามหลวงเพื่อคืนความงาม และรักษามรดกทางวัฒนธรรม และได้มี
        
เครดิตภาพจาก: http://news.voicetv.co.th/thailand/15990.html
     การเปิดใช้งานในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔ การปรับปรุงสนามหลวงครั้งนี้ได้มีการแบ่งพื้นที่การใช้สนามหลวงอย่างชัดเจน เป็น ๓ ส่วน แบ่งพื้นที่เป็นบริเวณจัดงานพระราชพิธี เป็นพื้นสาธารณะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและการเล่นกีฬาของประชาชนและเป็นพื้นที่การจัดกิจกรรมทางการเมือง ส่วนสุดท้ายเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมตามโอกาสสำคัญ
      การปรับภูมิทัศน์ในครั้งนี้ ได้แก้ปัญญาหามากมายที่เกิดขึ้นในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนกพิราบ ณ ตอนนี้ไม่มีนกพิราบแม้แต่ตัวเดียวอยู่ในบริเวณสนามหลวงเนื่องด้วย ทางกรุงเทพมหานครได้มีการจัดสถานที่สำหรับนกพิราบ อย่างเป็นสัดส่วน และยังได้มีการห้ามให้มีการขายของในบริเวณสนามหลวงเพื่อความเรียบร้อย ทั้งยังมีการกำหนดเวลาปิดเปิดอย่างชัดเจน จึงทำให้แก้ปัญหาการขายบริการซึ่งมีมานานได้อย่างเด็ดขาด
เครดิตภาพจาก: http://webboard.sanook.com/forum/?topic=3479288
     จากการที่ได้สัมภาษณ์ นายณัฐพล สัตบุตร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง 5 ได้กล่าวถึงการปรับปรุงสนามหลวงในครั้งนี้ว่า  ทางกรุงเทพมหานครได้มีการปรับปรุงพื้นที่ในสนามหลวง ไม่ว่าจะเป็นทางระบายน้ำ พื้นที่ทางเดิน และการปรับปรุงด้านภูมิทัศน์สนามหญ้า ประชาชนสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ในสนามหลวงในการพักผ่อนหย่อนใจ หรือร่วมกิจกรรมนันทนาการได้ ทางสนามหลวงได้มีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด คือ 05.00-20.00 น. เพื่อเป็นการดูแลรักษาความปลอดภัย รวมถึงการติดตั้งกล้องจำนวน 41 ตัวรอบสนามหลวงคอยจับการเคลื่อนไหวต่างๆภายในสนามหลวง และ บริเวณสนามหลวงจะมีไฟฟ้าคอยส่องแสงสว่างยามค่ำคืน
   “ทั้งทางกรุงเทพมหานครยังได้ประกาศข้อห้ามหลักๆ 4 ประการ คือ 1. ห้ามมีการจำหน่ายอาหารหรือสินค้า บริเวณสนามหลวงโดยเด็ดขาด 2. ห้ามมีการหลับนอนบริเวณสนามหลวงโดยเด็ดขาด 3. ห้ามทิ้งขยะลงพื้น ถ้าตรวจสอบพบ เทียบปรับไม่เกิน 2000 บาท 4. ห้ามมีการปูผ้าในเรื่องการดูหมอหรือการนวด โดยเด็ดขาด รวมถึงทางมาตรการควบคุมการค้าประเวณี เป็นเรื่องที่ทางตำรวจต้องค่อยตรวจตรา แต่จากการตรวจสอบที่ผ่านมาตั้งแต่เปิดสนามหลวงมา ยังไม่มีการตรวจพบ เนื่องจากบริเวณสนามหลวงมี แสงสว่างรอบบริเวณและ มีการกำหนดเวลาในการปิด-เปิด ด้วยเหตุนี้ทางกรุงเทพมหานคร
จึงอยากจะให้ประชาชนมาใช้บริการสนามหลวง เพื่อมาทำกิจกรรมต่างหรือมาพักผ่อนหย่อนใจ เจ้าหน้าที่ปกครอง 5 กล่าวว่า ส่วนผู้คนต่างๆที่ได้มีการมาใช้บริการสนามหลวงก็มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับภูมิทัศน์ จากการ สัมภาษณ์นาย อภิศักดิ์  พิชิตค้า นักศึกษาคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าวว่า ผมว่ามีคนส่วนน้อยที่ไม่รู้จักสนามหลวง การปรับปรุงสนามหลวงก็เป็นการดูแลหน้าตาของกรุงเทพมหานครให้ดีขึ้น จากที่เคยมองว่า สนามหลวง มีแต่ต้นขนุน ต้นมะขาม นก และคนขายอาหารนก ทั้งที่สนามหลวงก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นสนามที่สามารถให้ทุกคนมาพักผ่อนหย่อนใจและทำกิจกรรมร่วมกัน
     แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อมีประโยชน์แล้ว การปรับปรุงสนามหลวงในครั้งนี้ก็สร้างปัญหาให้แก่ ประชาชนบางส่วนที่ทำธุรกิจบริเวณสนามหลวงมานาน ทั้งจากการสัมภาษณ์แม่ค้าแม่ค้าที่ขายของบริเวณสนามหลวง ก็ได้กล่าวว่า ตนได้เกิดปัญหารายลดลง จากการปรับปรุงสนามหลวง เมื่อออกมาขายรอบนอก อีกทั้งยังไม่มีหลักแหล่งในการตั้งร้านในการขายของ เมื่อออกมาตั้งร้านด้านนอกก็ต้องคอยระวังเทศกิจที่จะมาไล่ เพราะพวกเค้าต้องตั้งร้านขายของบริเวณทางเท้า ไม่มีที่ขายของเป็นหลักแหล่งเมื่อแต่ก่อน
    แต่หากทุกคนมองเห็นถึงภาพรวมและ ประโยชน์ที่จะได้รับในระยะยาวในการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของสนามหลวงแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะคลี่คลายโดยเร็ว แต่อาจมองลึกเข้าไป สนามหลวงแห่งนี้ อัดแน่นไปด้วยความทรงจำ ความประทับใจ ทั้งยังเป็นหลักฐานที่สำคัญว่าเราได้เดินทางก้าวผ่านเวลาและการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองมาทุกยุคทุกสมัยเราจึงควรร่วมกันรักษาและดูแลทรัพย์สินของประเทศให้อยู่คู่คนไทย

 
    รายชื่อสมาชิกกลุ่ม
1.นายพิชญุตม์       เศรษฐเศวต  รหัส 5206100019
2.นางสาวณัฐธิชา  อามินเซ็น     รหัส 5206100036
3.นางสาวพรทิพย์  ทัฬหกิจกุล  รหัส 5206100037
4.นางสาวพิมรา     สีดอกบวบ   รหัส 5206100065
5.นางสาวลลินพร  เพ็งสุข          รหัส 5206100070 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น