วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

เสพติดไฮเทค

   ความเจริญของโลกที่ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยี มนุษย์ต่างยอมรับวัตถุเหล่านี้เป็นปัจจัยในการดำรงชีวิต  
ซึ่งนับวันมนุษย์ก็ยิ่ง
มีจำนวนปัจจัยในการดำรงชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจัยเหล่านั้นค่อยๆทวีความสำคัญมากขึ้นๆ
จนกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถขาดได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องมือต่างๆที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ หากย้อนเวลากลับไปโทรศัพท์มือถือก็มีความสำคัญเพียงแค่เครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งหากวันไหนที่เราลืมนำติดตัวเราก็ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่ต่างกับในปัจจุบัน    หากลองถามดูว่าถ้าวันไหนลืมนำโทรศัพท์มือถือติดตัวมาจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะในวัยรุ่น เชื่อว่าคำตอบที่ได้รับส่วนใหญ่คงจะหนีไม่พ้น ความรู้สึกที่ขาด มีอารมณ์หงุดหงิดกระวนกระวายใจ


คนเอเชียขณะนี้จ่ายเงินจำนวนมากสำหรับการเสพติดเทคโนโลยีเห็นได้จากยอดขายสมาร์ทโฟนปีละกว่า 100 ล้านเครื่องในเอเชีย-แปซิฟิก และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายใน 5 ปี ภูมิภาคนี้จึงถือเป็นตลาดอุปกรณ์มือถือขั้นสูงใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่เว็บไซต์เครือข่ายสังคม และเกมบนมือถือกำลังเป็นที่นิยมอย่างหนัก หนุ่มสาวเอเชียจำนวนมากค้นพบว่าตัวเองเริ่มมีปัญหาเมื่อไม่มีอุปกรณ์ไฮเทคใน มือหรือมีคอมพิวเตอร์ในรัศมีที่สามารถใช้งานได้ทันใจ ไม่ว่าจะต้องจ่ายเงินจำนวนมากเท่าไหร่เพื่อให้สามารถเข้าสู่โลกออนไลน์ได้คนจำนวนมากในเวลานี้ก็ล้วนแต่ยินยอม
ภาพติดตาที่พบเห็นได้ทุกที่ในสังคมปัจจุบัน คือ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใด นั่ง นอน ยืน เดิน รับประทานอาหาร หรือทำอะไรก็ตามมักจะมีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือคอยแชทคุยกันทุกนาที หรือทุกวินาทีเลยทีเดียว  โลกยุคดิจิทัลเปลี่ยนพฤติกรรมผู้คนในสังคม ด้วยการสื่อสารที่รวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัส กลายเป็นเทรนด์ของการสื่อสารที่คนรุ่นใหม่จำนวนมากหลงใหล และใช้มันอย่างเกินพอดี พฤติกรรมติดแชทกำลังระบาดอย่างหนัก คนหลายคนถ้าไม่ได้แชทจะมีอาการปานจะขาดใจ คนติดแชทจะมีพฤติกรรมแปลกๆ ชอบอยู่คนเดียว นั่งยิ้มคนเดียว อารมณ์ขึ้นลง คล้ายเป็นโรคจิตอ่อนๆ ซึ่งขณะนี้ สถาบันการศึกษาหลายแห่ง กำลังเจอภาวะเด็กติดแชท จนไม่เป็นอันเรียน ขาดสมาธิ ระบาดอย่างหนัก


ด้านแพทย์เริ่มกังวล  เนื่องจากมีผู้ปกครองพาเด็กมารับการรักษาเพราะเด็กนั่งเล่นเกม แชท หรือคุยโทรศัพท์นาน อาการที่พบบ่อยคือปวดหลังและ ปวดคอ โดยอาการปวดคอจะพบได้บ่อยกับพนักงานออฟฟิศ ขณะที่อาการปวดหลังจะพบได้บ่อยในวัยรุ่นซึ่งไม่สมควรจะเกิดขึ้น มีหลายกรณีที่ผู้ปกครองพาเด็กมาพบแพทย์เนื่องจากเกรงว่าอาการปวดหลังจะลุกลามเป็นโรคอื่นๆ เช่น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทและกังวลว่าจะต้องผ่าตัด


คนส่วนใหญ่ยอมรับว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสาร สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ง่าย และทำการส่งข้อมูลถึงกันได้ตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกันก็เห็นว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ยังมีด้านลบแฝงอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือทำให้ “ปฏิสัมพันธ์” ระหว่างบุคคลลดลง อีกทั้งยังมีความเห็นว่าเป็นสิ่งที่ฟุ่มเฟือย เกินความจำเป็น หากไม่มีก็ไม่เป็นอะไร
เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าปัจจุบันเรากำลังบริโภคเทคโนโลยีกันอย่างเกินความจำเป็นมากไปหรือไม่ เทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยประโยชน์ให้กับเรา แต่คนเรากลับใช้มันจนเกิดโทษด้วยเหตุที่มันเกินความพอดี ลองกลับมานั่งพิจารณาดูอีกทีสิว่า คุณจำเป็นต้องเสพติดเทคโนโลยีสื่อสารเหล่านี้มากขนาดนั้นหรือไม่  สามารถเลิกพฤติกรรมที่ไม่จำเป็นลงไปบ้างได้ไหม  และทำอย่างไรคุณจึงจะสามารถเป็นผู้ใช้หรือควบคุมมัน ไม่ใช่ปล่อยให้มันมาควบคุมคุณ  แล้ววันนี้ลองหันไปมองดูรึยังว่าเราคุยกับคนข้างๆ บ้างมากน้อยเพียงไร




จัดทำโดย
นางสาวบุศยพรรณ แสงจันทร์รุ่ง  5206100003
นางสาวศิริภรณ์ ทัพไพรี  5206100016
นางสาวณัฏฐ์นรี อนันต์กุลธรรม  5206100020
นางสาวอภิสรา จันทร์เทพ  5206100021
นายสิทธิพัทธ์ ไมตรีวงษ์  5206100043
นางสาวชนัญชิชา นันไชย  5206100048
นางสาวชัชพร ทัพพันธ์ชัย  5206100013
นางสาวมนต์ทิพย์ ทิพย์ถนอม  5206100034
นางสาวสุภา วงศ์ไวทยากูร  5206100081
นางสาวกวิสรา คมทองหลาง  5206100068
นางสาวปิติยา ประดับสุข  5206100085
         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น